หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2558

โรค SLE คืออะไร (โรค SLE ตอนที่ 1)

โรค SLE ตอนที่ 1

โรค SLE คืออะไร

แอดมินของประเดิม Blog นี้ด้วยโรคแรกคือโรค SLE เนื่องจากมีคนที่แอดมินรู้จักดีคนหนึ่งเป็นโรคนี้อยู่ เธอต่อสู้กับโรคนี้กว่าสิบกว่าปีแล้ว  เธอจะมาเล่าเรื่องราวของเธอเพื่อเป็นกรณีศึกษาและเป็นกำลังใจให้ชาว SLE ทั้งหลายในตอนสุดท้ายของบทความเรื่องโรค SLE

เริ่มแรกเรามารู้จักโรค  SLE ก่อนนะคะว่า คืออะไร มีสาเหตุจากอะไรบ้าง


โรค SLE ย่อมาจาก Systemic  Lupus Erythematosus หรือ โรคลูปัส คนไทยบางคนอาจจะเรียกว่าโรคแพ้ภูมิตนเอง ซึ่งโดยคนส่วนมากไม่ค่อยรู้จักโรคนี้เท่าไรนักเพราะเป็นโรคที่พบไม่บ่อยนัก จากรายงานในต่างประเทศโดยเฉลี่ยจะพบผู้ป่วยโรคนี้ ประมาณ 1 ใน 1000 คน แต่สิ่งที่ทำให้คนไทยรู้จักโรคนี้มากขึ้นก็เพราะการเสียชีวิตของนักร้องชื่อดัง คุณพุ่มพวง  ดวงจันทร์ ดังนั้นถ้าบอกว่าเป็นโรคพุ่มพวง หลายคนก็จะร้องอ๋อ ขึ้นมาทันที สำหรับบล็อกนี้แอดมิน ขอเรียกว่า โรค SLE แล้วกันนะคะ เพราะชินกับคำนี้มากกว่า

โรค SLE เป็นโรคที่เกิดจากภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานผิดปกติ แทนที่จะทำหน้าที่ปกป้องร่างกายจากเชื้อโรคต่างๆ กลับมาทำลายเซลล์ และเนื้อเยื่อของอวัยวะต่างๆ ในร่างกายของตนเอง จนก่อให้เกิดการอักเสบได้เกือบทุกอวัยวะของร่างกาย​  เช่น ระบบผิวหนัง, ระบบประสาท, ระบบหัวใจและหลอดเลือด, กล้ามเนื้อและข้อ, ระบบเลือด, ไต, ระบบทางเดินหายใจ เป็นต้น

โรค SLE เป็นโรคเรื้อรังที่ยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาดได้ จะมีช่วงเวลาที่โรคกำเริบและช่วงเวลาที่โรคสงบสลับกันไป โดยอาการขณะกำเริบนั้นมีความแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล หากผู้ป่วยได้เรียนรู้วิธีป้องกันไม่ให้โรคกำเริบ และรู้วิธีดูแลตนเองเพื่อให้อยู่กับโรคนี้ได้ ผู้ป่วยก็จะสามารถมีคุณภาพชีวิตใกล้เคียงคนปกติได้

ส่วนการดูแลรักษาผู้ป่วยโรค SLE จะมีทั้งการรักษาขณะที่ผู้ป่วยมีอาการกำเริบ และการรักษาโรคในระยะยาวขณะโรคสงบเพื่อป้องกันการกำเริบ และภาวะแทรกซ้อนทั้งจากตัวโรคและผลข้างเคียงจากการรักษาโรค โดยรายละเอียด จะได้แสดงในตอนต่อไปค่ะ

สาเหตุของโรค SLE

สาเหตุที่แท้จริงไม่มีใครทราบแต่เชื่อว่าเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น พันธ์กรรม, สิ่งแวดล้อมและระบบภูมิคุ้มกัน  เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดโรค โดยส่วนมากโรคนี้จะพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย โดยเฉพาะผู้หญิงวัยเจริญพันธ์ อายุระหว่าง 15-35 ปีจะพบมาก โรค SLE  ไม่ใช่โรคติดต่อไม่สามารถติดต่อจากผู้ป่วยไปสู่คนอื่นๆได้ โดยมีปัจจัยหลักๆ ที่เป็นสาเหตุของโรค SLE  ได้แก่

1.ปัจจัยทางพันธุกรรม

    จากการศึกษาพบหลักฐานที่สนับสนุนปัจจัยทางพันธุกรรมที่เอื้อต่อการเกิดโรค SLE มากขึ้น โดยพบอัตราการเกิดโรค SLE ในฝาแฝดที่เป็นแฝดชนิดไข่ใบเดียวกันจะมีโอกาสเกิดโรคสูงกว่าแฝดที่เกิดจากไข่คนละใบ นอกจากนี้แล้ว ในปัจจุบันยังมีการค้นพบยีนบางตัวที่เอื้อต่อการเกิดโรค SLE จำนวนมากโดยยีนเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นยีนที่มีบทบาทเกี่ยวข้องกับระบบภูมิต้านทานในร่างกาย

2.ปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมและระบบภูมิคุ้มกัน ได้แก่

  • ฮอร์โมนเพศหญิง เช่น estrogen เนื่องจากพบโรค SLE พบในเพศหญิงมากกว่าเพศชายหลายเท่า และยังมีข้อมูลสนับสนุนจากการติดตามกลุ่มที่รับฮอร์โมน estrogen ทั้งจากการกินยาคุมกำเนิด และจากการใช้ฮอร์โมนเสริมในวัยหมดประจำเดือนพบว่าผู้ป่วยที่ได้รับ ฮอร์โมน estrogen เพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรค SLE 1.5-2.1 เท่า
  • แสงแดด พบว่าผู้ป่วยโรค SLE มักมีอาการกำเริบของโรคหลังสัมผัสแสงแดด
  • การติดเชื้อบางอย่าสามารถกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานต่อนิวเคลียสได้
  • ยาบางชนิดก่อให้เกิดการสร้างภูมิต้านทานต่อต้านตนเองได้
  • สารเคมีต่างๆ ในสิ่งแวดล้อม เช่น ฝุ่นซิลิกา ยาย้อมผม การสุบบุหรี่ ยาฆ่าแมลง เป็นต้น
นอกจากนี้แล้วยังมีปัจจัยหลายอย่างที่เป็นตัวกระตุ้นและเพิ่มโอกาสการเกิดโรค SLE เช่น ความเครียด, การพักผ่อนไม่เพียงพอ และอื่นๆ แต่ยังต้องรอการศึกษาสนับสนุนต่อไป

ตอนต่อไปจะนำเสนออาการของโรค SLE โดยละเอียดติดตามใน โรค SLE ตอนที่ 2 อาการของโรค SLE

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น